กนง.เสียงแตก4ต่อ3ให้คงดอกเบี้ย1.50% แทงกั๊กขยับขึ้นดอกเบี้ยนัดสุดท้ายก่อนสิ้นปี อ้างให้ที่ประชุมพิจารณาข้อมูลล่าสุด ส่วนทิศทางส่งออกยังอ่วมหนักจากมาตรการกีดกันทางการค้า ด้านท่องเที่ยวยังน่าห่วงหลังชาวจีนเมินเที่ยวไทย ด้านกรุงศรีฯคาดดอกเบี้ยไทยขยับดือนธ.ค.

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดย กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง แม้อุปสงค์ต่างประเทศมีสัญญาณชะลอลงบ้าง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและพื้นฐานมีทิศทางเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ภาวการณ์เงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็ต้องติดตามความเสี่ยงจากภาวะการเงินที่ผ่อนคลายเป็นเวลานาน

“คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยเพราะมองว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายช่วยสนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจ ส่วนอีก 3 เสียง เห็นว่าการขยายตัวเศรษฐกิจมีความต่อเนื่องชัดเจนเพียงพอ และภาวะการเงินที่ผ่อนคลายเป็นเวลานานจะส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร ส่วนการประชุม กนง.ครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค. จะมีความเห็นให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ จะต้องเป็นการพิจารณาจากข้อมูลปัจจุบันเป็นครั้งต่อครั้งไป”นายทิตนันทิ์ กล่าว

นายทิตนันทิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม กนง.หารือถึงแนวโน้มการส่งออกที่มีสัญญาณชะลอตัวมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ซึ่งส่วนสำคัญมาจากปัญหาการกีดกันทางการค้า และปัจจัยชั่วคราวจากปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น ใต้ฝุ่น ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ขณะที่การท่องเที่ยวลดลงจากปัญหานักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะมีการปรับประมาณการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปรับชุม กนง.ครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามอุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวกว่าที่คาด

ด้านกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% นับเป็นการตรึงดอกเบี้ยครั้งที่ 28 ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 32.90 ต่อดอลลาร์ โดย เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง 1.1% เทียบกับดอลลาร์ แต่ยังปรับตัวได้ดีกว่าสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ เนื่องจากยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงแข็งแกร่ง

คณะกรรมการ กนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ โดยการลงมติด้วยคะแนนเสียง 4:3 ในครั้งล่าสุดนี้ เป็นไปตามที่กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์คาดไว้ และเป็นสัญญาณที่เพิ่มความเป็นไปได้ว่า กนง.จะเริ่มวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม คณะกรรมการกนง. กล่าวย้ำว่า การดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับปัจจุบันจะทยอยลดความจำเป็นลง โดยมีจำนวนกรรมการเพิ่มขึ้นทีเห็นว่าควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากความกังวลในเรื่องความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินจากการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำนานเกินไป ขณะที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศมีความแข็งแรงเพียงพอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน