ธปท. มั่นใจแบงก์พาณิชย์ยังตรึงดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับขึ้นดบ.นโยบาย แจงสภาพคล่องในระบบมีมาก

แบงก์พาณิชย์ยังตรึงดอก – นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หาก ธปท. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็ไม่ได้เป็นแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามในทันที โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เนื่องจากมองว่าขณะนี้ในระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสภาพคล่องอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ประกอบกับในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารพาณิชย์สามารถทำกำไรได้ดีกว่าอยู่แล้ว

“เชื่อมั่นว่าสภาพคล่องที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับเร็ว แม้ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม”ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว

อย่างไรก็ดี แม้ขณะนี้ ธปท. จะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่อัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรได้ปรับขึ้นไปบ้างแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินตลาดทุนโลกที่ขยับขึ้น ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรปรับสูงขึ้น ทำให้ธนาคารพาณิชย์จะแข่งกันปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายใหญ่ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้ารายใหญ่ค่อนข้างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีลูกค้ารายใหญ่บางส่วนกลับมากู้แบงก์มากขึ้น

นายวิรไท กล่าวว่า การทำนโยบายการเงินของ ธปท. ต้องประเมินสถานการณ์อยู่ตลอด โดยมีการคาดการณ์ไปในอนาคต และชั่งน้ำหนักในปัจจัยที่สำคัญ 4 ด้าน คือ 1. พัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อ 2. ความเข้มแข็งในการขยายตัวของเศรษฐกิจ 3. เสถียรภาพของระบบการเงิน 4. ความสามารถในการทำนโยบายในอนาคต

สำหรับ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด แม้จะมีกรรมการที่เห็นควรให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 3 เสียง แต่อีก 4 เสียงเห็นควรให้คงดอกเบี้ยนั้น แต่ทุกคนยังเห็นตรงกันว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังจำเป็นสำหรับประเทศไทย แต่การที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำเป็นเวลานาน และต่ำมากเป็นพิเศษ ย่อมจะทำให้เกิดจุดเปราะบาง และส่งผลข้างเคียงต่อระบบการเงินไทยได้ ดังนั้นแนวทางการตัดสินนโยบายของ ธปท. ยังยึดหลัก Data Dependent คือต้องประเมินสถานการณ์ และบริบท รวมทั้งข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดในการตัดสินนโยบายแต่ละครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน