ดัชนีมีการดีดกลับขึ้นต่อเนื่อง แต่มีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาเล็กน้อย

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ปิดที่ 1,640.63 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.36 จุด คิดเป็น +0.39% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,644.27 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,635.37 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 31,784.09 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,090.57 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.06 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.44% เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค โดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และยังสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งสูงขึ้น 1.05% ในขณะที่นักลงทุนต่างรอดูการการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอด G20

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 1.02% หลังจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ผลการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะออกมาเป็นบวก

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,736.66 ล้านบาท ลดลง -3.50 บาท คิดเป็น -1.79%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,619.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.51%
3. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,450.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท คิดเป็น +1.97%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,304.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.39%
5. BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,169.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.35 บาท คิดเป็น +4.02%

ดัชนีมีการดีดกลับขึ้นต่อเนื่องโดยขยับขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแต่ยังไม่ผ่าน จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาเล็กน้อย ในขณะที่ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นตัดเส้น SIGNAL อีกครั้งแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ พร้อมวอลุ่มที่ลดลงแบบซึมๆ

หากวันนี้(28) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 1,639-1,637 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 1,646-1,650 จุดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด