น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ร่วมเดินสายทุกภูมิภาคทั่วประเทศให้ความรู้สร้างความเข้าใจในโครงการ “พร้อมเพย์” บริการรับเงินและโอนเงินทางเลือกใหม่ โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือเลขประจำตัวประชาชนแทนเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร เพิ่มความสะดวก ประหยัด และปลอดภัย ในการรับเงินและโอนเงิน พร้อมเชิญชวนให้ใช้พร้อมเพย์ เพื่อก้าวสู่ระบบการเงินยุคดิจิทัลของประเทศไทย ย้ำพร้อมเปิดให้บริการการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลอย่างเป็นทางการ ในไตรมาสแรกของปี 2560

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจัดงานสัมมนาให้ความรู้โครงการ “พร้อมเพย์” ในหัวข้อ “การเงินยุคใหม่ คนไทยยุคดิจิทัล” ขึ้นใน 3 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงใหม่ สงขลา (หาดใหญ่) และขอนแก่น เมื่อเดือนพ.ย.และธ.ค. 2559 ได้รับความสนใจจากประชาชน ตัวแทนธนาคาร ตัวแทนหน่วยงานรัฐ เป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากทั้ง 3 จังหวัดรวมถึงจังหวัดใกล้เคียง จำนวนรวมกว่า 1,200 คน โดยมีทีมผู้บริหารจากธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ร่วมพูดคุยและไขข้อสงสัยให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา

“นอกจากมีโอกาสได้ชี้แจงเกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์แล้ว วิทยากรได้รับคำถามจากผู้เข้าร่วมสัมมนา อาทิ การใช้งาน ทั้งด้านการใช้พร้อมเพย์เพื่อรับและโอนเงินและการใช้พร้อมเพย์เพื่อรับสวัสดิการรัฐ ความปลอดภัยของระบบ ตลอดจนวิธีการสมัคร เปลี่ยนแปลงหมายเลขที่ผูกกับบัญชี และยกเลิกบริการพร้อมเพย์ นั้น เรายังได้รับข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ เช่น การใช้พร้อมเพย์ชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน หรือเพื่อรับเงินรางวัลต่างๆ เป็นต้น ช่วงอบรมตัวแทน ‘Train the Trainers’ จากแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างเข้มข้น วิทยากรไขข้อข้องใจด้วยคำตอบที่ลงลึกและรอบด้าน ทำให้เราเชื่อมั่นว่าตัวแทนจากแต่ละธนาคารและเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เข้ารับการอบรมจะสามารถนำข้อมูลไปถ่ายทอดได้อย่างถูกต้อง ผู้ที่ผ่านการอบรม จากงานสัมมนาครั้งนี้จะได้เป็น ‘PromptPay Champions’ หลังจากนี้ จะมีการให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน”

นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวให้ความกระจ่างในประเด็นที่ประชาชนมีความกังวลคล้ายคลึงกันว่า การนำเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือไปผูกบัญชี จะทำให้ข้อมูลไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวล้วนเป็นข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนที่ธนาคารเก็บรักษาให้ลูกค้าอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ลูกค้าแจ้งข้อมูลเหล่านี้เมื่อเปิดบัญชีเงินฝาก และการสมัครบริการพร้อมเพย์ด้วยตัวเองเป็นการยืนยันว่าท่านต้องการใช้หมายเลขเหล่านี้ในการรับเงินด้วยพร้อมเพย์จริง นอกจากนี้ หากมีการโอนเงินผิดพลาด ลูกค้าก็สามารถแจ้งธนาคารต้นทางที่โอนเงินได้ทันที โดยธนาคารมีขั้นตอนการดูแลลูกค้า เช่นเดียวกับการให้บริการโอนเงินอื่นๆ ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ยังคงมุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์ โดยจะมีการจัดสัมมนาสัญจรเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับบริการพร้อมเพย์ผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ ที่ประชาชนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย เช่น ภาพยนตร์โฆษณา และเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ เริ่มต้นในปี 2560 นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน