สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ธ.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 30.81 จุด หรือ +1.88% มาปิดที่ 1,672.61 จุด โดยวันนี้ดัชนีดีดตัวแรง หลังจากการพบปะกันระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลออกมามีสัญญาณในทางบวก โดยทั้งสองฝ่ายจะขอพักการตอบโต้กันบนสงครามการค้า และทั้งสองฝ่ายตกลงจะไม่ขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดให้มีการเจรจาต่อไป
พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังทวิต ว่ารัฐบาลจีนจะลดและยกเลิกอัตราภาษีร้อยละ 40 ที่เก็บจากรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างชัดเจน
ด้านตลาดหุ้นเอเชียวันนี้จึงขานรับ โดยปรับตัวขึ้น นำโดย ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง และดัชนีเซียงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นราว 2.6% นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีจากกรณีที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียและซาอุดีอาระเบีย ได้ตกลงที่จะขยายข้อตกลงระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) กับประเทศนอกกลุ่มโอเปก (OPEC Plus) ต่อไปในปี 2562 โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมอุปทานของตลาดน้ำมันดิบ
ด้านภาพรวมปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 60,562.30 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,677 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 7,364,589.90 บาท ปิดที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น +3.25 บาท (+4.76%)
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 5,262,843.35 บาท ปิดที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น +2.50 บาท (+5.08%)
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,186,437.45 บาท ปิดที่ 140.50 บาท เพิ่มขึ้น +8.50 บาท (+6.44%)
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,626,995.35 บาท ปิดที่ 196.50 บาท เพิ่มขึ้น +3.00 บาท (+1.55%)
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,151,290.40 บาท ปิดที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท (+3.14%)
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
