สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 ปิดที่ 1653.73 จุด ปรับตัวลดลง -18.59 จุด คิดเป็น -1.11% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1658.64 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1649.23 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 38,682.06 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1103.85 จุด ปรับตัวลดลง -14.74 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ เพื่อไว้อาลัยอดีตปธน.จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมในวัย 94 ปี
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียและดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่ผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ถูกจับกุมตัวในประเทศแคนาดาตามคำร้องขอของสหรัฐนั้น อาจส่งผลให้ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัว 1.68% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการจับกุมตัวนางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 1.91% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การจับกุมผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน อาจส่งผลให้ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,913.63 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -2.43%
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,042.69 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -1.07%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,734.76 ล้านบาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น -1.14%
4. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,611.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.28%
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,587.39 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -1.54%
ดัชนีมีการปรับตัวลดลงในลักษณะกระโดดเปิด GAP โดยอ่อนตัวลงมาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแต่ยังประคองตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้เกิดเป็นสัญญาณโดจิ โดยเป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดต่างประเทศ ซึ่งวันนี้(7) ยังมีโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงต่อเนื่อง แต่หากดัชนีไม่หลุดหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10-25 วันแถวๆ 1,648-1,645 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,659 จุด ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านหรือปิด GAP แถวๆ 1,666-1,669 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
