บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (19-23 ก.ย. 2559) โดยความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นทดสอบระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก่อนลดช่วงบวกเล็กน้อยท้ายสัปดาห์
ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า แม้เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ แต่จังหวะการคุมเข้มนโยบายการเงินในช่วงหลังจากนั้น จะยังคงเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน สำหรับในวันศุกร์ (23 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.66 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 34.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ (16 ก.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ตัวเลขการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนส.ค.
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกอาจรอติดตามสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา Core PCE เดือนส.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 2/59 (รอบสุดท้าย) นอกจากนี้ ตลาดอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การโต้วาทีระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในช่วงต้นสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้น หลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,492.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.93% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 11.90% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 51,153.37 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 556.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.40% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ ตามการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ก่อนที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรของนักลงทุนจากความกังวลว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเริ่มลดลง จากนั้น ตลาดปรับเพิ่มขึ้นในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ ตอบรับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์ โดยมีแรงขายทำกำไรทางเทคนิค หลังดัชนีไม่สามารถยืนเหนือ 1,500 จุดได้
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,480 และ 1,450 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,510 และ 1,525 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของไทย และรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพีไตรมาส 2/59 (รายงานรอบสุดท้าย) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่น
