สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ปิดที่ 1658.71 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.62 จุด คิดเป็น +0.34% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1663.49 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1653.00 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 38,519.92 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1105.74 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.08 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.68% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงราล์ฟ ลอเรน และเอสเต ลอเดอร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์ จะใช้โอกาสนี้ในการแถลงแผนการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และการปรับลดราคายา

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ในขณะที่นักลงทุนได้ซึมซับการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการ เนื่องในวันตรุษจีน

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 0.14% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนในวันนี้ เนื่องจากแรงบวกในช่วงเช้าได้อ่อนแรงลงหลังจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2561 ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่น

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. EA มูลค่าการซื้อขาย 1,820.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.25 บาท คิดเป็น +4.74%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,513.31 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -1.02%
3. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,382.30 ล้านบาท ลดลง -0.20 บาท คิดเป็น -0.84%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,289.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.00%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,251.21 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.71%

ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้หลังจากไม่หลุดลงไปปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันเมื่อวันก่อนหน้า ทำให้ดัชนีดีดกลับขึ้นมาทำ New high เล็กน้อยในรอบสัปดาห์ ซึ่งวันนี้(7) ยังมีโอกาสที่ดัชนีจะดีดกลับต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1667-1669 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่ดัชนีเคยเปิด GAP เอาไว้ หากดัชนีผ่านขึ้นปิด GAP ดังกล่าวได้ดัชนีน่าจะมีแถมขึ้นต่อแถวๆ เส้น BollingerTop และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1673-1677 จุดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน