สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 15 มี.ค. 2562 SET Index ดัชนีปิดที่ 1,625.57 จุด เปลี่ยนแปลง -10.31 จุด หรือ -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 49,860.05 ล้านบาท การซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ -787.38 ล้านบาท, บัญชี บล. 314.56 ล้านบาท, นักลงทุนต่างประเทศ -2,350.16 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป +2,822.98 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,226,535.55 บาท ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท (+0.52%)
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,615,243.90 บาท ปิดที่ 75.50 บาท ลดลง -1.75 บาท (-2.27%)
3. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,195,858.10 บาท ปิดที่ 119.00 บาท ลดลง -1.50 บาท (-1.24%)
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,749,966.10 บาท ปิดที่ 189.00 บาท ลดลง -3.50 บาท (-1.82%)
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,603,593.65 บาท ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง -1.00 บาท (-1.45%)
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15 มี.ค. 2562) ปรับตัวลดลง 4.55 จุด หรือ -0.28% มาปิดที่ 1,625.57 จุด ระหว่างสัปดาห์ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบราว 20 จุด โดยยังคงไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม มีแรงขายบางส่วนจากนักลงทุนต่างชาติ คาดเกิดจากโยกย้ายเงินทุนเข้าตลาดหุ้นจีนหลังจากที่ MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีนจาก 5% เป็น 20% (ทยอยปรับขึ้น 3 ครั้ง ในเดือน พ.ค. ส.ค. และ พ.ย. ตามลำดับ)
ส่วนความคืบหน้าประเด็น Brexit ล่าสุดรัฐสภาอังกฤษไม่เห็นชอบต่อการแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง และร้องขอให้ EU ขยายระยะเวลาการแยกตัวออกไป 3 เดือน เป็น 30 มิ.ย. 2562 จากกำหนดเดิม 29 มี.ค 2562 คาด EU จะมีการพิจารณาคำร้องขอดังกล่าวในวันที่ 21 มี.ค. 2562
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้ามีปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามคือการประชุม FED ในวันที่ 19-20 มี.ค. 2562 ซึ่งตลาดคาด FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยตามเดิมที่ 2.25-2.50% รวมทั้งติดตามการเลือกตั้งในประเทศวันที่ 24 มี.ค. 2562
บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน)
