สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2562 ปิดที่ 1,634.25 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.85 จุด คิดเป็น +0.30% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,637.60 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,625.77 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 48,074.53 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,088.36 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.90 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.13% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐลดลงต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2561 ของสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 0.92% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเจรจากาค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงอย่างหนัก 1.61% เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกได้ฉุดหุ้นกลุ่มต่างๆ ร่วงลงเป็นวงกว้าง
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,150.45 ล้านบาท ลดลง -4.00 บาท คิดเป็น -2.08%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,158.82 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. STEC มูลค่าการซื้อขาย 2,043.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.90 บาท คิดเป็น +3.83%
4. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,298.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท คิดเป็น +0.82%
5. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,231.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +0.41%
ดัชนีมีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวแคบๆ โดยยังแกว่งตัวแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันต่อเนื่อง ในขณะที่ MACD ยังดีดกลับไม่พ้นระดับศูนย์แต่ก็ทรงๆ ตัว ดัชนีน่าจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยโดยมีแนวต้านสั้นๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1,636 จุด หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low หรือปิดต่ำกว่า 1,625 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 1,644 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
