สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 3 เมษายน 2562 ปิดที่ 1,649.06 จุด ปรับตัวลดลง -2.42 จุด คิดเป็น -0.15% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,654.02 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,646.01 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 44,246.76 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,098.51 จุด ปรับตัวลดลง -1.71 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.30% เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยารายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต่างมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบล่าสุดที่สหรัฐระหว่างผู้แทนจีนและสหรัฐ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดดีดตัวขึ้น 1.24% เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่จะเปิดฉากขึ้นอีกครั้งในวันนี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 0.97% เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางความหวังที่ว่า การเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าs
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,011.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.52%
2. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,447.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +1.84%
3. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,793.41 ล้านบาท ลดลง -12.00 บาท คิดเป็น -2.46%
4. BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,214.55 ล้านบาท ลดลง -0.15 บาท คิดเป็น -1.50%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,193.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.18%
ดัชนีเริ่มถูกขายทำกำไรกลับลงมาหลังจากดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่องหลายวัน แต่ไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 1,655 จุด ทำให้ดัชนีเริ่มอ่อนตัวกลับลงมาอีกครั้งแต่ยังไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ซึ่งวันนี้เส้นดังกล่าวจะขยับขึ้นมาแถวๆ 1,646 จุด หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นดังกล่าวซะก่อน ดัชนีจึงจะมีโอกาสดีดกลับขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง แต่ถ้าดัชนีประคองตัวปิดเหนือเส้นดังกล่าวไม่ได้ ดัชนีน่าจะไหลซึมลงมาต่อเนื่องแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,640-1,639 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
