สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562 ปิดที่ 1,673.32 จุด ปรับตัวลดลง -0.11 จุด คิดเป็น -0.01% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,678.19 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,670.84 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 37,668.41 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,112.93 จุด ปรับตัวลดลง -0.83 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.14% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษี และการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 2.43% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่จีนได้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 0.48% เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ตัดสินใจที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,784.54 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
2. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,446.74 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.36%
3. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,255.09 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -1.07%
4. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,242.75 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -1.60%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,171.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.11%
ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นทำ New high หลังจากวันก่อนหน้าไม่หลุดลงไปปิด GAP แต่ดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ โดยที่ในระหว่างวันสามารถประคองตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้อีกด้วย หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low ต่อเนื่องและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,670 จุดได้ ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นผ่าน 1,677-1,678 จุด ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 1,683 จุดต่อไป แต่ในกรณีที่หลุดลงมาต่ำกว่าแนวรับ ดัชนีน่าจะหลุดลงมาทดสอบ GAP ที่ 1,662 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
