ตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจปัจจัยเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง – ชี้หุ้นร่วงจากนักลงทุนกังวลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

หุ้นร่วงเพราะนักลงทุนกังวล – นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงช่วงวันที่ 7 พ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 8 พ.ค. นั้นเป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศ ที่มีความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน หลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ทวิตเตอร์ในเชิงจะปรับขึ้นจากภาษี 10% เป็น 25%

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง และกระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศจะไหลกลับเข้าประเทศไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนเป็นสำคัญ โดยที่ปัจจุบันปัจจัยทางเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่อัตราการทำกำไรของแต่หมวดอุตสาหกรรมไม่เหมือนกัน เช่นอุตสาหรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ ท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ยังเติบโตได้ดี ส่วนในอุตสาหกรรมส่งออกก็ต้องดูว่าส่งออกไปประเทศใด ถ้าส่งออกไปประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ก็แน่นอนความสามารถในการทำกำไรก็อาจจะลดลง เป็นต้น

ขณะที่นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่อง และผู้ลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดหลักทรัพย์อื่นในเอเชีย โดยมีปัจจัยต่างประเทศ คือ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีนเป็นไปในทิศทางที่ประนีประนอมมากขึ้น และการขยายกำหนดเวลาการออกจากอียูของอังกฤษ แม้ว่าปัจจัยต่างๆ จะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ในเดือนพ.ค.นี้ ความไม่แน่นอนก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นผู้ลงทุนควรลงทุนอย่างระมัดระวังโดยให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจเป็นหลัก

สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET) ณ สิ้นเดือนเม.ย. 2562 ปิดที่ 1,673.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.1% จากสิ้นเดือนก่อน โดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่าภาพรวมตลาด ขณะที่ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ ณ เดือนเม.ย.ที่ 3,344 ล้านบาท ส่วนมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 41,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน