สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2562 ปิดที่ 1,633.84 จุด ปรับตัวลดลง -6.29 จุด คิดเป็น -0.38% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,639.63 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,629.56 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 53,923.40 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,086.59 จุด ปรับตัวลดลง -3.74 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลง 2.38% หลังจากจีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ตลาดหุ้นยุโรป เปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่ตลาดได้ซึมซับข่าวจีนประกาศเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ เพื่อตอบโต้การจับเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมโดยสหรัฐ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง 0.69% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดร่วงลง 0.59% เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิลดช่วงลบ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความหวังว่า การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายจะมีความคืบหน้า
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,535.26 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.53%
2. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,949.63 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,904.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +1.31%
4. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,693.17 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,521.24 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ดัชนีอ่อนตัวกลับลงมาต่อเนื่องทำ New low โดยหลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้น BollingerBottom ต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดเป็นสัญญาณคล้ายโดจิ อีกทั้ง MACD ยังหลุดลงมาต่ำกว่าศูนย์แล้ว มีโอกาสที่ดัชนีจะซึมลงต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะเริ่มดีดกลับรอบใหม่ โดยวันนี้(14) จะมีแนวต้านแรกแถวๆ เส้น BollingerBottom และเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,636-1,640 จุด หากวันนี้ดัชนีประคองตัวปิดเหนือระดับดังกล่าวได้จึงจะมีลุ้นดีดกลับต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 1,647 จุดต่อไป แนวรับ 1,624-1,622 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
