สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 29 พฤษภาคม 2562 ปิดที่ 1,619.36 จุด ปรับตัวลดลง -12.68 จุด คิดเป็น -0.78% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,632.06 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,618.71 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 55,991.65 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,074.89 จุด ปรับตัวลดลง -9.69 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 0.93% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงการค้ากับจีน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่อประเด็นการค้าระหว่างประเทศ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งการเมืองยุโรปภายหลังจากที่รัฐบาลอิตาลีมีแนวโน้มว่าจะถูกสหภาพยุโรป (EU) สั่งปรับเป็นเงินถึง 3 พันล้านยูโร
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย 0.16% ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 1.21% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. SCC มูลค่าการซื้อขาย 4,255.01 ล้านบาท ลดลง -12.00 บาท คิดเป็น -2.61%
2. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,375.03 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -1.89%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,186.87 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -1.86%
4. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,048.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.26%
5. SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,792.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.78%
ดัชนีไหลกลับลงมาที่เดิมแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันหลังจากวันก่อนหน้าปรับตัวขึ้นแรงจากการปรับของ MSCI คาดว่าเป็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นก่อนที่ดัชนีจะรีบาวด์กลับรอบใหม่ได้ หากวันนี้(30) ดัชนียังประคองตัวยืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,618 จุดได้ต่อเนื่อง ดัชนีจึงจะมีลุ้นรีบาวด์ผ่าน 1,632 จุดขึ้นไปทำ New high ต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 และ 75 วันที่ 1,643-1,644 จุดต่อไป แนวรับถัดไป 1,611 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
