สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2562 ปิดที่ 1,648.46 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.77 จุด คิดเป็น +0.66% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,650.70 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,642.35 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,214.32 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,095.47 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.44 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 0.02% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ และผลกระทบของสงครามการค้า ขณะที่ดัชนี Nasdaq เข้าสู่ภาวะพักฐาน หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากรายงานข่าวที่ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสอบสวนบริษัทอัลฟาเบท เฟซบุ๊ก แอปเปิล และอเมซอน ในข้อหาผูกขาดตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา ในขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลดัชนี PMI

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดขยับลง 0.03 ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 1.80% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นวันแรกหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้แรงหนุนหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,090.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท คิดเป็น 0.31%
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,042.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.50 บาท คิดเป็น +1.32%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,970.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +1.08%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,855.20 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.38%
5. SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,821.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.15%

ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ในลักษณะเปิด GAP จากประเด็นที่เฟดกำลังจะปัดฝุ่นโครงการ QE อีกครั้ง ทำให้ตลาดต่างประเทศปรับตัวขึ้นแรงตอบรับข่าวดังกล่าวรวมถึงตลาดบ้านเราด้วย ดัชนีจึงมีการกระโดดเปิด GAP ในช่วงเช้า โดยผ่านขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน และแกว่งตัวในระดับสูงตลอดทั้งวันเกิดเป็นสัญญาณโดจิในท้ายที่สุด มีโอกาสที่พรุ่งนี้ดัชนีจะพลิกกลับลงมาได้ หากวันนี้(6) ดัชนีถอยกลับลงมาปิด GAP แถวๆ 1,640 จุด ดัชนีน่าจะซึมลงมาแถวๆ 1,637-1,635 จุดได้ต่อไป ในขณะที่แนวต้านอยู่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,653 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน