น.ส.กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กล่าวคือมีโรงงานผลิตของตัวเอง และมีการออกแบบพัฒนาสินค้า ตลอดจนมีช่องทางจำหน่ายเป็นของตัวเองในหลายช่องทางตั้งแต่ช่องทางค้าปลีกภายใต้ อินเด็กซ์ ลีฟวิ่ง มอลล์ รวม 36 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ขณะเดียวกันในเดือนก.ค.นี้ เตรียมเปิดอีก 1 สาขา จ.จันทบุรี งบลงทุน 160 ล้านบาท และล่าสุดยังเตรียมเปิดร้านวินเนอร์เฟอร์นิเจอร์แห่งแรก ในจ.ราชบุรี ขนาด 1,500 ตร.ม. เจาะฐานลูกค้าต่างจังหวัดหัวเมืองรอง ด้วยงบลงทุน 30-40 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีฐานลูกค้าโครงการทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม สำนักงาน โรงเรียน และโรงพยาบาล ช่องทางขายผ่านตัวแทนจำหน่าย และออนไลน์ ตลอดจนยังมีร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ในต่างประเทศผ่านระบบแฟรนไชส์อีก 17 ร้านค้า ใน 7 ประเทศ โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่แล้วบริษัทได้เปิดตัว ยูนีค เฟอร์นิเจอร์ เป็นเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด ซึ่งแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจให้เช่าและบริการพื้นที่เช่าภายใต้เดอะวอล์ค ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ด้วยเช่นกัน ทำให้บริษัทมีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย

โดยผลประกอบการในปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งหมด 8.9 พันล้านบาท โดย 77% เป็นรายได้จากค้าปลีก 12% รายได้จากลูกค้าโครงการ และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีการเติบโตของสาขาเดิม 3.3% และหากย้อนหลัง 3 ปี เติบโตเฉลี่ย 1.2% ยอมรับว่าตลาดมีการแข่งขันสูง แต่มีผู้เล่นรายใหญ่น้อยราย ประกอบกับบริษัทเน้นออกสินค้าใหม่และมีกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาใช้งบกว่า 200 ล้านบาทา ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวไม่มีผลต่อยอดขายของบริษัท เนื่องจากมีทั้งกลุ่มบ้านเก่า และบ้านใหม่ใกล้เคียงกัน สำหรับกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 592 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10%

ทั้งนี้ ล่าสุดภายในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) 105 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.79% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว จากปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,525 ล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 505 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 5 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 2,000 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 400 ล้านหุ้น โดยมี บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี เงินที่ได้จากการหุ้นไอพีโอ โดยบางส่วนจะนำไปชำระหนี้ซึ่งปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.7 เท่า และบางส่วนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงขยายการลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรการผลิต และขยายสาขาใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน