สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2562 ปิดที่ 1,670.41 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.68 จุด คิดเป็น +0.34% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,675.60 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,663.36 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 50,095.39 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,108.53 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.24 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 78.74 จุด ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2561 เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวสหรัฐระงับการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก รวมทั้งข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทจดทะเบียน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่น และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ในขณะที่นักลงทุนติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอด G20 จะเปิดฉากขึ้น
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 88.22 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 73.59 จุด เนื่องจากหน่วยงานท้องถิ่นของรัฐบาลได้รับการอนุมัติให้นำรายได้จากการจำหน่ายพันธบัตรพิเศษไปใช้ในโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ได้ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 210.70 จุด ตามตลาดหุ้นจีน
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 69.86 จุด เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,682.60 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.30%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,523.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.53%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,681.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.38%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,597.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.39%
5. SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,314.91 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ New high ต่อได้หลังจากผ่านขึ้นปิด GAP ไปในวันก่อนหน้าพร้อมวอลุ่มซื้อขายที่สูงสม่ำเสมอ อีกทั้ง MACD ที่ผ่านขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้แล้วและจากสัญญาณ Golden cross ในช่วงต้นสัปดาห์ หากวันนี้(12) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้น BollingerTop ที่ 1,669 จุด หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,662 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1,682-1,683 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในรอบ 6 สัปดาห์อีกครั้ง
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
