สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ 5 ก.ค. 2562 SET Index ปิดที่ 1,731.23 จุด เพิ่มขึ้น +6.86 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 63,687.09 ล้านบาท โดยการซื้อขายวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,731.84 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,719.61 จุด

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ หลักทรัพย์
1. GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,836,492.95 บาท 125.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
2. SCC มูลค่าการซื้อขาย 3,441,418.40 บาท 462.00 บาท ลดลง -6.00 (-1.28%)
3. GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,309,441.28 บาท 73.25 บาท เพิ่มขึ้น +4.00 (+5.78%)
4. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,512,112.70 บาท 211.00 บาท ลดลง -1.00 (-0.47%)
5. BCPG มูลค่าการซื้อขาย 1,337,226.25 บาท 19.20 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (1-5 ก.ค. 2562) ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อน โดย 0.89 จุด+ หรือ +0.05% โดยตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากการพบปะ ระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐ ในช่วงการประชุม G-20 ที่แม้จะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่มีนัยฯ ได้ แต่ก็เป็นการเปิดโอกาสในการเจรจาที่หยุดชะงักมาราว 2 เดือน พร้อมกับประเด็นในประเทศที่คาดหวังกันว่า การโปรดเกล้าฯ ครม. จะเป็นจุดเริ่มต้นของมาตรการกระตุ้นต่างๆ ที่หน่วยงานกระทรวงต่างๆ เตรียมแผนงานไว้แล้ว

แต่ในช่วง กลาง-ปลาย สัปดาห์ ตลาดเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยเฉพาะกับประเด็นลบที่มีต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า กรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้แจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินว่ากระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า โดยให้เอกชนเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าทำให้สัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐลดลงต่ำกว่า 51% อันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ประเด็นต่างประเทศ ความกังวลเรื่องสงครามการค้า เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจาก ปธน. ทรัมป์ ทวิต ในทำนองว่า จีน และ EU ปั่นค่าเงิน แต่ในอีกแง่ตลาดก็กลับมามีความหวังเรื่อง QE มากขึ้น ด้านปริมาณการซื้อขายสัปดาห์นี้เฉลี่ยหนาแน่นที่ 70 พันล้านบาท/วัน ต่างชาติซื้อสุทธิในสัปดาห์นี้รวม 10 พันล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน