สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2562 ปิดที่ 1,724.87 จุด ปรับตัวลดลง -2.71 จุด คิดเป็น -0.16% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,732.69 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,719.93 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 62,133.43 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,139.56 จุด ปรับตัวลดลง -1.11 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 17.70 จุด โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิ้ลซึ่งดีดตัวขึ้นกว่า 2% นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าทำเนียบขาวและสมาชิกสภาคองเกรสใกล้บรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวขึ้น ในขณะที่นักลงทุนรอดูการประกาศผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 95.26 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 12.97 จุด ภายหลังจากที่มีรายงานว่า ผู้แทนเจรจาของสหรัฐจะเดินทางเยือนจีนสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเรื่องการค้า
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 204.09 จุด เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกันอย่างคึกคัก รับความหวังสหรัฐอาจผ่อนคลายคำสั่งห้ามทำการค้ากับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,299.15 ล้านบาท ลดลง -1.30 บาท คิดเป็น -17.11%
2. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,622.79 ล้านบาท ลดลง -0.20 บาท คิดเป็น -3.03%
3. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,481.40 ล้านบาท ลดลง -4.50 บาท คิดเป็น -2.37%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,199.04 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -1.12%
5. PTG มูลค่าการซื้อขาย 1,988.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.20 บาท คิดเป็น +5.56%
ดัชนีเริ่มอ่อนตัวกลับลงมาต่อเนื่องโดยหลุดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันด้วย แต่ไม่หลุดลงไปถึงแนวรับเดิมที่ 1,714 จุด ก่อนที่ดัชนีจะมีแรงซื้อกลับในช่วงบ่ายใกล้ปิดตลาด หากวันนี้(24) ดัชนีประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 25 วันแถวๆ 1,727 จุดได้ ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่าน 1,731 จุด ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 1,738 จุดต่อไป ในขณะที่แนวรับยังอยู่แถวๆ 1,716-1,714 จุดที่เดิม
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
