บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (22-26 ก.ค. 2562) สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เงินบาททยอยอ่อนค่าลง โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรงในระยะใกล้ๆ นี้ ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ในทางกลับกัน เงินดอลลาร์สหรัฐ มีแรงหนุนจากการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณของสหรัฐ และการที่ IMF ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ในปีนี้ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ บางส่วนที่ออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ตลาดระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินมุมมองดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมสิ้นเดือนก.ค. ในวันศุกร์ (26 ก.ค.) เงินบาทกลับมาปิดตลาดที่ 30.89 บาทต่อดอลลาร์ (หลังอ่อนค่าลงแตะระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงแรก) เทียบกับระดับ 30.78 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (19 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (29 ก.ค.-2 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.70-31.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมิ.ย. และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (30-31 ก.ค.) สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค. ของสหรัฐ จีน และประเทศชั้นนำอื่นๆ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ตลอดจนยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,717.97 จุด ลดลง 0.99% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,401.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.36% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 0.49% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 373.33 จุด

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์จากแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันท่ามกลางคาดการณ์ว่าโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอย่างรุนแรงลดน้อยลง หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในเวลาต่อมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการเตรียมเปิดการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ และจีน อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาค่อนข้างดี ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เฟดอาจปรับมุมมองเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมช่วงสิ้นเดือนก.ค.

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (29 ก.ค.-2 ส.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,715 และ 1,700 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,730 และ 1,745 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (30-31 ก.ค.) ผลการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ และจีน รวมถึงสถานการณ์ Brexit ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิต และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/62 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค. ของประเทศแถบยุโรป ญี่ปุ่นและจีน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน