สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2562 ปิดที่ 1,625.57 จุด ปรับตัวลดลง -11.69 จุด คิดเป็น -0.71% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,643.41 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,621.85 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 56,866.61 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,070.23 จุด ปรับตัวลดลง -9.52 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 249.78 จุด โดยได้แรงหนุนจากข่าวจีนและเยอรมนีออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทั้งแดนบวกและลบ ขณะนลท.คลายกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดลดลง 3.59 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 3.10 จุด ภายหลังจากธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ loan prime rate (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปี
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดลบ 60.30 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการประท้วงที่มีต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงในปี 2562 จะหดตัวลง 0.3% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1%
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 114.06 จุด ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีน สามารถซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐได้อีก 90 วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,406.95 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -1.75%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,262.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +0.89%
3. INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,849.05 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,761.38 ล้านบาท ลดลง -0.15 บาท คิดเป็น -2.40%
5. STEC มูลค่าการซื้อขาย 1,533.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท คิดเป็น +1.02%
ดัชนีพลิกกลับลงมาปิดแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน หลังจากวันก่อนหน้าเกิดสัญญาณคล้ายโดจิ โดยในช่วงเช้ามีความพยายามปรับตัวขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันแต่ทำไม่ได้ และไม่มี New high ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาตลอดทั้งวัน จนกระทั่งปิดที่ระดับเกือบต่ำสุดของวันอีกด้วย หากวันนี้(21) ดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นปิดแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,634 จุดไม่ได้เป็นอย่างน้อย หรือหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,624-1,623 จุดอีก ดัชนีน่าจะซึมลงต่อแถวๆ 1,616-1,610 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
