บัตรเอทีเอ็ม 20 ล้านใบ ใช้ไม่ได้สิ้นปีนี้ แบงก์ชาติ จี้ลูกค้าให้เปลี่ยนเป็นระบบชิปการ์ดก่อน 15 ม.ค. 63 เพื่อยกระดับความปลอดภัย

เอทีเอ็ม20ล้านใบใช้ไม่ได้สิ้นปีนี้ – น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2559 ธปท. สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงิน ได้ร่วมกันผลักดันการปรับเปลี่ยนบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มจากรูปแบบบัตรแถบแม่เหล็ก (magnetic card) ให้เป็นบัตรชิปการ์ด (chip card) ที่เป็นมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ป้องกันการปลอมแปลงบัตร (counterfeit card fraud) และการโจรกรรมข้อมูล (skimming) นำไปทำบัตรปลอม และใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม

ทั้งนี้ ยังคงเป้าหมายที่จะเปลี่ยนบัตรได้ครบถ้วนภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งสถาบันการเงินต่างๆ ได้ประชาสัมพันธ์และเปลี่ยนบัตรให้ประชาชนมาโดยตลอด ปัจจุบันพบว่ามีผู้เปลี่ยนบัตรเป็นชิปการ์ดไปแล้วประมาณ 47 ล้านใบ และยังคงมีบัตรแถบแม่เหล็กคงเหลือที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอีกประมาณ 20 ล้านใบทั่วประเทศ

ดังนั้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน ป้องกันความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น และให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้งานบัตรได้อย่างต่อเนื่อง ธปท. ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ยังใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มแบบแถบแม่เหล็กอยู่ในปัจจุบันรีบติดต่อธนาคารที่ใช้บริการได้ทุกสาขาเพื่อเปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชิปการ์ดให้แล้วเสร็จ โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มใบเดิม และสมุดบัญชีเงินฝาก โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนบัตร

ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 15 ม.ค. 2563 บัตรแถบแม่เหล็กจะไม่สามารถใช้งานได้ที่เครื่องเอทีเอ็มหรือเครื่องรูดบัตรที่ร้านค้า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรชิปการ์ด หากมีความต้องการใช้เงินสดหรือโอนเงิน สามารถเบิกถอนได้ที่สาขาธนาคาร หรือใช้ฟังก์ชั่นกดเงินไม่ใช้บัตรที่ตู้เอทีเอ็ม หรือโอนเงินผ่าน mobile banking / internet banking แทนการใช้บัตร ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center หรือเจ้าหน้าที่ของสาขาธนาคารที่ใช้บริการ หรือที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร. 1213

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน