สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 11 เมษายน 2560 ปิดที่ 1,582.78 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.59 จุด คิดเป็น +0.10% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,585.93 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,579.96 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 44,659.19 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,003.25 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.75 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.01% โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในทิศทางผันวน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.60% ภายหลังจากที่จีนได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงในภาคธนาคาร
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.27% เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทโตชิบา คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในวันนี้ หลังจากที่เลื่อนกำหนดการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไปแล้วถึง 2 ครั้ง
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,605.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.60 บาท คิดเป็น +2.93%
2. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,381.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5.00 บาท คิดเป็น +2.74%
3. MM มูลค่าการซื้อขาย 2,112.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +4.76%
4. SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,587.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +0.92%
5. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,349.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.03%
ดัชนีมีความพยายามประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันต่อเนื่องหลังจากไม่หลุดลงไปต่ำกว่าเส้นดังกล่าว อีกทั้งยังดีดกลับขึ้นทำ New high วันต่อวันปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ในท้ายที่สุด หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,582 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ในรอบสัปดาห์ต่อได้แถวๆ 1,592 จุดต่อไป โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,586 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
