นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามความร่วมมือกับ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) เพื่อขยายความร่วมมือทางการเงินแบบครบวงจรใน 7 ด้าน ประกอบด้วย บัตรเครดิต บริการด้านร้านค้ารับบัตร การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านระบบออนไลน์ การให้สินเชื่อร่วมหรือเงินกู้ร่วม โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) การให้กู้ยืมระหว่างธนาคาร และการเป็นตัวแทนเพื่อให้บริการลูกค้าร่วมกัน
“ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั้ง 2 ธนาคาร โดยในส่วนของลูกค้าออมสิน 22 ล้านคน จะสามารถใช้เครือข่ายของไอซีบีซี โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจที่จีนได้ เช่นเดียวกับลูกค้าไอซีบีซีซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่สุดในโลก และมีชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากกว่าปีละ 10 ล้านคน ก็จะใช้เครือข่ายของออมสินในการรับชำระสินค้าในไทย แลกเปลี่ยนเงินตรา ท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ ตลอดจนกู้เงินจากออมสินไปลงทุนได้”
ทั้งนี้ ในต้นปีหน้าจะเริ่มออกบัตรเครดิตและบัตรเดบิตร่วมกันเอง 2 ธนาคารภายใต้ยูเนียนเพย์ออกมาได้ก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจะร่วมกันทำระบบรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการร่วมมือกันปล่อยกู้โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งมีนักลงทุนจีนสนใจเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ออมสินก็พร้อมที่จะเข้าไปปล่อยกู้ร่วมไอซีบีซีซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์หาลูกค้าเข้ามา
นายชาติชาย กล่าวว่า ผลดำเนินการของออมสินปีนี้มั่นใจว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 3-5% คิดเป็นยอดสินเชื่อเติบโต 100,000 ล้านบาท เพิ่มเป็นยอดรวม 2.2 ล้านล้านบาท และเงินฝากเพิ่มอีก 1 แสนล้านบาท เป็น 2.3 ล้านล้านบาท โดยสินเชื่อปล่อยใหม่ในปีนี้ ยังคงเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีรายย่อยประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนหนี้เสียปัจจุบันอยู่ที่ 2.9% และสินปีนี้คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.8% เป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ และการบริหารจัดการที่ดีขึ้น
นายจื้อกัง หลี่ ประธานกรรมการ ธนาคาร ซีไอบีซี (ไทย) กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เป็นการสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ 2 ธนาคาร โดยจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการทางการเงินให้ดีขึ้น ทั้งในกลุ่มลูกค้าบุคคลและนิติบุคคล โดยไอซีบีซี มีกลุ่มลูกค้าบุคคลมากกว่า 500 ล้านราย และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังไทยมีการใช้จ่ายถึง 160,000 ล้านบาท และมีการเติบโตขึ้น 10% ในทุกปี รวมถึงยังใช้จ่ายสินค้าและบริการผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และแอพพลิเคชั่นอาลีเพย์
