สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2562 ปิดที่ 1,634.46 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +7.45 จุด คิดเป็น +0.46% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,636.51 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,628.87 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 58,534.92 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,091.29 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.91 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 237.44 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผันผวน ขณะนักลงทุนจับตาอังกฤษ-EU เจรจาประเด็น Brexit

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 14.39 จุด

ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 12.34 จุด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างจีนและสหรัฐ

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 160.35 จุด โดยนักลงทุนยังคงขานรับการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 265.71 จุด พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเวชภัณฑ์ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,986.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +1.99%
2. GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,647.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท คิดเป็น +4.32%
3. AWC มูลค่าการซื้อขาย 2,303.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาท คิดเป็น +1.57%
4. GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,866.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.59%
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,852.99 ล้านบาท ลดลง -1.50 บาท คิดเป็น -2.90%

ดัชนีสามารถดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ในที่สุดอีกทั้งยังขยับขึ้นทำ New high ต่อเนื่องได้อีกเล็กน้อย ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศที่ขยับขึ้นไปในแดนบวกกันถ้วนหน้าจากประเด็นผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นวันนี้(17) หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1,632 จุดซะก่อน ดัชนีน่าจะได้ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1,649 จุด สำหรับแนวรับหลักอยู่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,625-1,623 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน