ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลง เพราะยังขาดปัจจัยใหม่ที่เข้ามาสนับสนุน บวกกับภาพรวมของเศรษฐกิจโลกมีทิศทางที่ชะลอตัวอย่างชัดเจนมากขึ้น หลังจากจีนรายงาน GDP ในช่วงไตรมาส 3/2562 ขยายตัว 6%YoY ต่ำกว่าคาดที่ 6.1%YoY และต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี

อีกทั้งตัวเลขการส่งออกในเดือนก.ย. หดตัว1.39% ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2562 ส่งออกหดตัว 2.11% กระทรวงพาณิชย์ยอมรับปีนี้ส่งออกไทยมีโอกาสติดลบเล็กน้อย จึงให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนี 1,610-1,640 จุด

พร้อมทั้งยังคงจับตาปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิดโดยในวันที่ 22 ต.ค. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 เข้าที่ประชุมครม. เปิดให้ลงทะเบียน 23 ต.ค. ส่วนสหรัฐ เปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ในวันที่ 23 ต.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ อียู เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค. และ วันที่ 24 ต.ค. อียู เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค. จากมาร์กิต ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

ส่วนสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. รวมทั้งในวันที่ 29-30 ต.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประชุมนโยบายการเงิน (ทราบผล 31 ต.ค. เวลาในประเทศไทย) ส่วนวันที่ 31 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และ 31 ต.ค. กำหนดเวลา Brexit เป็นวันสุดท้าย

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจัยบวกจากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระแรกผ่านไปแล้ว และ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 2 เข้า ครม. วันที่ 22 ต.ค. พร้อมกับผู้ว่าฯแบงก์ชาติญี่ปุ่นส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ประเทศพัฒนาแล้วยังมีโอกาสผ่อนคลายการเงิน ยังถือว่ายังไม่มีน้ำหนักมากนักในการะสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในระยะสั้นได้

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเด่นเดือนต.ค. 2562 เช่น JUBILE, ARROW และ TNP รองลงมาหุ้นได้ประโยชน์จากโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เช่น ROBINS, BJC, MAKRO, SPA ERW, TNP และ CPALL) รวมทั้งหุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) เช่น TISCO, SPF RSP, TWPC, DIF และ GPI

ส่วนราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำให้ซื้อสะสมทองคำที่แนวรับ 1,460-1,480 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทย 20,900-21,200 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากฝ่ายวิจัยคาดว่าทองคำจะกลับมาได้รับความนิยมในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลัง IMF ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2562 ลงจาก 3.2% เหลือ 3.0% อีกทั้ง S&P เปิดเผยถึงจำนวนบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ตามในระยะสั้นทองคำยังขาดปัจจัยใหม่มาสนับสนุนทำให้ทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยรอปัจจัยบวกจากการประชุมเฟดในเดือนธ.ค. ที่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ 1.75% จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน