สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2562 ปิดที่ 1,601.83 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.62 จุด คิดเป็น +0.67% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,601.83 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,589.48 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 66,498.35 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,075.91 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.43 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดลบ 19.30 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศชิลีในเดือนหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผันผวน ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมทั้งรอดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดลดลง 10.20 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 14.86 จุด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดร่วง 119.05 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดลบ 131.01 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. GPSC มูลค่าการซื้อขาย 5,609.97 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -1.19%
2. EA มูลค่าการซื้อขาย 3,768.70 ล้านบาท ลดลง -4.00 บาท คิดเป็น -8.79%
3. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,622.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5.00 บาท คิดเป็น +3.82%
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,689.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +2.25%
5. GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,673.95 ล้านบาท ลดลง -5.00 บาท คิดเป็น -3.04%
ดัชนีสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1,600 จุดได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการซื้อกลับในหุ้นกลุ่มแบงก์และขายทำกำไรในกลุ่มโรงไฟฟ้าซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมาไกลมาก ทำให้ดัชนีดีดกลับขึ้นปิดได้ในระดับสูงสุดของวันและปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ในที่สุด หากวันนี้(31) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่า 1,596 จุดซะก่อน ดัชนีน่าจะได้ลุ้นขึ้นผ่าน 1,605 จุด ก่อนลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 1,612-1,615 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
