กรุงศรีเผยเงินบาทแข็งค่า คาดทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี หลังเฟดลดดอกเบี้ย

เงินบาทโป๊กหลังเฟดลดดอกเบี้ย – กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่กรอบ 1.50-1.75% ตามความคาดหมายของตลาด และเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยและซื้อขายที่ระดับ 30.19 ในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ (31 ต.ค. 2562) และมีโอกาสที่จะทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีครั้งใหม่ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดในแดนบวก โดยดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ย่อตัวลง

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ประเมินว่าเงินดอลลาร์จะเผชิญแรงขายช่วงสั้นจากท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ของเฟด และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจะยังคงผันผวน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. เฟดระบุว่าการจ้างงานและการบริโภคอยู่ในภาวะแข็งแกร่งขณะที่การลงทุนและภาคส่งออกอ่อนแอและเงินเฟ้อต่ำ มติการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยเสียง 8-2 โดยผู้คัดค้าน 2 รายต้องการให้เฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม

ประเด็นสำคัญในรอบนี้ คือ เฟดตัดทิ้งประโยคในแถลงการณ์ครั้งก่อนที่ระบุว่าจะดำเนินนโยบายที่เห็นว่าเหมาะสมเพื่อทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตต่อไป แต่กล่าวย้ำว่าจะเฝ้าติดตามข้อมูลต่างๆ ที่จะเข้ามา โดยสัญญาณดังกล่าวบ่งชี้ถึงการหยุดลดดอกเบี้ยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ท่าทีดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนนายพาวเวลล์ ประธานเฟด แม้แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจและกล่าวว่าปัจจัยเสี่ยงบางประการ อาทิ สงครามการค้า และ Brexit แบบไร้ข้อตกลง ได้ลดลงไปบ้างแล้ว แต่ยังเปิดทางเลือกสำหรับการลดดอกเบี้ยในอนาคตหากจำเป็น

ทั้งนี้ เราคาดว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 10-11 ธ.ค. และอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปี 2563 หากโมเมนตัมการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯแผ่วลงอย่างชัดเจนมากขึ้น สำหรับปัจจัยชี้นำถัดไปจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ช่วงสายของวันนี้ และข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ ในวันที่ 1 พ.ย. รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยในสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน