สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ปิดที่ 1,623.99 จุด ปรับตัวลดลง -2.88 จุด คิดเป็น -0.18% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,631.34 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,621.34 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 62,181.94 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,093.50 จุด ปรับตัวลดลง -3.29 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 30.53 จุด โดยดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอีกครั้ง ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า จีนกำลังเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางส่วน เพื่อปูทางไปสู่การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผันผวนกรอบแคบ ขณะนลท.ยังติดตามสถานการณ์เจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 2.44 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 12.96 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดขยับขึ้นแค่ 5.24 จุด เนื่องจากนักลงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจฮ่องกง อันเนื่องมาจากผลกระทบของการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 51.83 จุด แตะระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,341.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.37%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,337.79 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.55%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,110.66 ล้านบาท ลดลง -0.75 บาท คิดเป็น -0.95%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,067.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +0.95%
5. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,790.21 ล้านบาท ลดลง -3.00 บาท คิดเป็น -1.29%
ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นต่อทำ New high อีกเล็กน้อยก่อนจะถูกขายทำกำไรกลับลงมา แต่ยังประคองตัวได้ไม่หลุดลงมาทำ New low วันต่อวัน ประกอบกับ MACD ที่เริ่มดีดกลับขึ้นมาอีกเล็กน้อยแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ หากวันนี้(7) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low วันต่อวันต่ำกว่าแถวๆ 1,621 จุดซะก่อน ดัชนียังพอมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้ หากดัชนีดีดกลับผ่าน 1,631 จุดได้เร็วค่อยเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 1,637 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
