ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2560 จำนวน 8,305 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ปีก่อนที่ 8,317 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 16,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.35% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 10,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 10.1% โดยเพิ่มขึ้นที่ค่าธรรมเนียมจากบริการกองทุนรวมและบริการประกันผ่านธนาคาร และค่าธรรมเนียมจากบริการอิเล็กทรอนิกส์และการโอนเงิน ขณะที่กำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและกำไรสุทธิจากเงินลงทุนลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานมีจำนวน 11,082 ล้านบาท ลดลง 13.8% จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายประมาณการหนี้สินสำหรับภาระผูกพันลดลง

ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2560 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,923,953 ล้านบาท ลดลง 0.9% จากสิ้นปี 2559 โดยเป็นการลดลงของสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายกลางและรายปลีก สินเชื่อลูกค้าบุคคล และสินเชื่อกิจการต่างประเทศ สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2560 มีจำนวน 77,772 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.5% ของเงินให้สินเชื่อรวม ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงติดตามดูแลคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดและตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1 ปี 2560 มีการตั้งสำรองจำนวน 5,806 ล้านบาท ทำให้เงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัย จะสูญของธนาคารอยู่ที่ 124,446 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.5% ของเงินให้สินเชื่อ

ด้านเงินกองทุน หากนับกำไรสุทธิสำหรับงวดก.ค.-ธ.ค. 2559 และกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2560 หักด้วยเงินปันผลที่จะจ่ายในเดือนพ.ค. 2560 รวมเข้าเป็นเงินกองทุนแล้ว อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณ 19.0% 17.2% และ 17.2% ตามลำดับ สำหรับส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 มี.ค. 2560 มีจำนวน 385,910 ล้านบาท คิดเป็น 12.9% ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 202.17 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3.61 บาท จากสิ้นปี 2559

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน