สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562 ปิดที่ 1,551.82 จุด ปรับตัวลดลง -1.14 จุด คิดเป็น -0.07% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,559.19 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,546.51 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 49,381.73 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,048.85 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.83 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดลบ 27.88 จุด ขณะที่นักลงทุนรอดูความชัดเจนว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผันผวน ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 4.71 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 7.10 จุด หลังมีรายงานข่าวว่า สหรัฐอาจเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน อย่างไรก็ดี ตลาดบวกขึ้นไม่มาก เนื่องจากยังไม่มีการออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการจากทั้งสหรัฐและจีน
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 208.81 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดลบ 18.33 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศมติหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในคืนนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,564.86 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.59%
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,370.83 ล้านบาท ลดลง -6.00 บาท คิดเป็น -4.05%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,924.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +2.05%
4. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,826.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.34%
5. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,491.74 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -0.93%
ดัชนียังปรับตัวลงทำ New low ต่อเนื่องแม้ว่าจะมีจังหวะรีบาวด์กลับขึ้นมาชั่วคราวก็ตาม แต่แนวโน้มยังคงเป็นขาลงตราบเท่าที่ดัชนียังไม่ทำ New high แต่หลุดลงไปทำ New low ต่อเนื่องแบบนี้ หากวันนี้(12) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับเส้น BollingerBottom ที่ 1,544-1,543 จุดซะก่อน ดัชนียังพอจะมีลุ้นรีบาวด์สั้นๆ ได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,555-1,556 จุด ก่อนดัชนีจะซึมลงต่อแถวๆ 1,525 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
