นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวภายหลังการลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือทางเทคนิคด้านการบริหารเงินทุนเพื่อความยั่งยืน ปี 2563 ระหว่าง กบข. และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ว่า ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อเป็นการยกระดับกระบวนการลงทุนของ กบข. ที่ได้มีการนำปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social&Governance : ESG) มาพิจารณาร่วมในกระบวนการลงทุน เพื่อให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับกองทุนบำนาญระดับโลก และสอดคล้องแนวปฏิบัติเพื่อการลงทุนอย่างรับผิดชอบ

ทั้งนี้ กบข. และธนาคารโลก มีเป้าหมายร่วมกันที่จะให้ กบข. เป็นต้นแบบ “กรณีศึกษาต้นแบบ” ของกองทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการบริหารจัดการเงินลงทุน โดยใช้ปัจจัยด้าน ESG อย่างเต็มรูปแบบ โดยลักษณะความร่วมมือ ประกอบด้วย 1. การจัดทำแผนกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG 2. การนำปัจจัย ESG มาใช้ในกระบวนการบริหารจัดการลงทุน การพัฒนาระบบด้านความยั่งยืน เพื่อใช้ในการประเมินมูลค่าตราสารทุนและตราสารหนี้ในการลงทุน

3. การจัดทำแนวทางนำปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการสรรหาผู้จัดการกองทุนภายนอก และ 4. การจัดทำกรอบการกำกับ ติดตาม และจัดทำรายงานผลการดำเนินกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG มาใช้ของ กบข.

“การนำปัจจัย ESG เข้ามา เพื่อช่วยให้การลงทุนของ กบข. มีความโปร่งใส มีการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่จะลงทุน โดยหากพบว่าบริษัท หรือหุ้นใด ๆ มีการทุจริต ก็จะมีข้อมูลชัดเจนทันที และ กบข. ก็จะไม่ลงทุนในหุ้นลักษณะดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนให้กับสมาชิกของ กบข. โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 1 ปี จะเห็นผลเชิงปฏิบัติอย่างชัดเจนจากการลงนามดังกล่าว” นายประสงค์ กล่าว

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นก้าวที่สำคัญและสอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นผู้นำและผู้ริเริ่มนวัตกรรมด้านการลงทุนโดยคำนึงถึงปัจจัย ESG ของ กบข. ซึ่งปีที่ผ่านมา ได้มีการนำปัจจัยดังกล่าวเข้ามาร่วมในแผนการลงทุน อาทิ การปรับกระบวนการลงทุน โดยนำปัจจัยด้าน ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในทุกขึ้นตอน นำปัจจัย ESG มาเป็นเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกผู้จัดการกองทุนภายนอก ริเริ่มโครงการลงนามประกาศเจตนารมณ์แนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” กับบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหา ESG มีนักลงทุนสถาบันร่วมลงนาม 32 ราย เป็นต้น

ด้านนางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกมีความยินดีอย่างมากที่จะทำงานร่วมกันกับ กบข. และหน่วยงานกำกับตลาดการเงิน เพื่อช่วยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติการทางการเงินที่เป็นสีเขียวและความยั่งยืน ธนาคารโลกหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ กบข.สามารถนำวิธีการทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลมาปรับใช้ในกระบวนการลงทุนและจัดหาเครื่องมือเพื่อที่จะนำทางและสร้างความเป็นเลิศในตลาดการเงินภายในประเทศของประเทศไทยได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน