ดัชนีดีดกลับหลังจากตลาดทั่วโลกซึมซับข่าวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านเรียบร้อย

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 7 มกราคม 2563 ปิดที่ 1,585.23 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +16.73 จุด คิดเป็น +1.07% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,585.44 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,570.04 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 61,992.82 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,075.07 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.24 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 68.50 จุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันความสนใจออกจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางแนวโน้มที่เป็นบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีน

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวกวันนี้ ในขณะที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 72.60 จุด

ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 21.39 จุด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 95.87 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ฟื้นตัว

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดพุ่ง 370.86 จุด ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านไม่ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในขณะนี้

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BAM มูลค่าการซื้อขาย 3,683.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.20 บาท คิดเป็น +6.00%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,806.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.53%
3. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,644.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.32%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,550.01 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.35%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,404.92 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.37%

ดัชนีดีดกลับหลังจากตลาดทั่วโลกซึมซับข่าวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านเรียบร้อย โดยหลายๆ สำนักวิเคราะห์แล้วน่าจะไม่บานปลายไปจนถึงสงครามโลกครั้งใหม่ ทำให้นักลงทุนหันกลับมาสนใจประเด็นของเศรษฐกิจโลกอีกครั้งโดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กำลังคลี่คลาย ดังนั้นวันนี้(8) หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,580 จุดซะก่อน ดัชนีน่าจะได้ลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1,589-1,592 จุดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด