น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยต่างประเทศในเรื่องกระแสข่าวดอยซ์แบงก์ ใกล้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุน รวมถึราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงราว 48 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติลดกำลังการผลิตลงสู่ 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งผลสำรวจของ Fox News ล่าสุดระบุว่านางฮิลลารียังมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์ที่ 43% ต่อ 40%

ส่วนปัจจัยบวกภายในประเทศได้แก่ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น การส่งออกในเดือนส.ค.ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 6.5% รายได้ภาคเกษตรที่ดีขึ้น ส่งผลให้หลายสำนักวิจัยต่างปรับประมาณการจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า ซึ่งเป็นบวกต่อภาวะการลงทุน

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุน คือ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีแผนจะเริ่มกระบวนการ BREXIT สิ้นเดือนมี.ค. 2560 และกรณีที่รมว.คลังรัฐอิลลินอยส์ประกาศระงับการทำธุรกรรมการลงทุนวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์กับธนาคารเวลส์ ฟาร์โก หลังถูกปรับ 185 ล้านดอลลาร์ จากการที่เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่า 2 ล้านบัญชี แนะนำจับตาการ Preview งบไตรมาส 3/2559 ของกลุ่มธนาคารที่มีกำหนดส่งภายในวันที่ 21 ต.ค. ในวันที่ 6 ต.ค. สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ เช้าวันที่ 10 ต.ค.ตามเวลาในไทยเป็นการดีเบตรอบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 2

ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงขึ้น และการ Preview งบไตรมาส 3/59 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึงกระแสข่าวการเจรจาลดค่าปรับของธ.ดอยซ์แบงก์ เป็นแรงหนุนต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม การดีดตัวของดัชนีจะถูกจำกัดด้วยแรงกดดันจากสัญญาณเทคนิครวมถึง Volume ซื้อ/ขายที่ค่อนข้างบาง ดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนขาขึ้นโดยมีกรอบการเคลื่อนตัวที่ 1,480 – 1,510 จุด

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำปรับลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังเดินหน้าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียและประธานเฟดสาขาแอตแลตตา รวมถึงประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุมกดให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักกว่า 3% ในคืนวันที่ 4 ต.ค.

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ได้เพิ่มความกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้มากขึ้น รวมถึงความกังวลปัญหาด้านการเงินของดอยซ์แบงก์ลดลงจากกระแสข่าวว่าดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดิมที่ดอยซ์แบงก์จะต้องจ่าย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับทางสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาปรับลงตามแนวต้านเส้น 5 วัน และ 10 วัน ที่ยังคงสัญญาณ DEAD CROSS ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ ทำให้ราคาแนวโน้มปรับลงต่อเข้าหาฐานแนวการพักตัวหลัก โดยมีแนวรับ 1,250-1,245 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,300-1,305 เหรียญต่อทรอยออนซ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน