สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ปิดที่ 1,519.38 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +23.32 จุด คิดเป็น +1.56% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,520.10 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,499.21 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 58,698.59 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,023.89 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +18.10 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 143.78 จุด โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นจีนที่ปิดแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้น หลังดิ่งหนักวานนี้จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 90.42 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 36.68 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดทะยาน 319 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 112.65 จุด เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,029.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.71%
2. BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,957.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท คิดเป็น +6.80%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,524.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท คิดเป็น +2.57%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,291.27 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.40%
5. SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,125.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท คิดเป็น +1.68%
ดัชนีดีดกลับขึ้นมาได้อีกครั้งเป็นการทำ New high วันต่อวัน อีกทั้งดัชนียังสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ ซึ่งเป็นการปิดได้ในระดับสูงของวันอีกด้วย หากวันนี้(5) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นดังกล่าวแถวๆ 1,514 จุดอีก ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,527 จุดลุ้นขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์แถวๆ 1,532 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
