สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 31 มีนาคม 2563 ปิดที่ 1,125.86 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +38.04 จุด คิดเป็น +3.50% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,127.92 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,104.12 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 56,867.43 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 756.91 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +27.00 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 690.70 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจสุขภาพอย่างคึกคัก นำโดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ที่พุ่งขึ้นถึง 8%

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนที่พุ่งขึ้นในเดือนมี.ค.

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 154.82 จุด

ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 0.11% ขานรับ PMI จีนพุ่งขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 428.37 จุด ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดลบ 167.96 จุด หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในวันสุดท้ายของปีงบการเงินของญี่ปุ่น

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BAM มูลค่าการซื้อขาย 4,542.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.20 บาท คิดเป็น +6.38%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,438.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.75 บาท คิดเป็น +6.03%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,317.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.24%
4. GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,894.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.67%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,866.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +2.01%

ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากการทำรูปแบบสามเหลี่ยมที่มีแนวโน้มจะ Break new high ในรอบ 10 วันได้พร้อม MACD ที่กำลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแต่ยังไม่พ้นระดับศูนย์ อีกทั้งสถานการณ์แนวโน้มของตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น หากวันนี้(1) ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าแถวๆ 1,124 จุดซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,104 จุด ดัชนีจึงจะมีลุ้นผ่านจุดสูงสุดเดิมแถวๆ 1,133 จุด ก่อนผ่านขึ้นต่อแถวๆ 1,156 จุดต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน