สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 7 เมษายน 2563 ปิดที่ 1,214.95 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +76.11 จุด คิดเป็น +6.68% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,220.67 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,173.14 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 98,954.92 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 825.42 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +58.75 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1,627.46 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใกล้จะถึงจุดสูงสุด
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดดีดตัวขึ้น ภายหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตส่งสัญญาณการอ่อนตัวลงในหลายประเทศ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดเพิ่มขึ้น 388.94 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 2.05% ภายหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในจีนชะลอตัวลง
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดทะยาน 504.17 จุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดพุ่ง 373.88 จุด หลังจากมีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสในสหรัฐและยุโรปลดลง แต่ตลาดถูกกดดันจากความระมัดระวังเกี่ยวกับผลกระทบของสถานการณ์ฉุกเฉินที่ญี่ปุ่นเตรียมประกาศเร็วๆ นี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BAM มูลค่าการซื้อขาย 9,381.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.70 บาท คิดเป็น +12.80%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,124.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.75 บาท คิดเป็น +7.75%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,170.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +7.50 บาท คิดเป็น +15.00%
4. GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,033.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +13.50 บาท คิดเป็น +9.09%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,955.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +7.75 บาท คิดเป็น +9.81%
ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ในรอบ 3 สัปดาห์ และยังสามารถประคองตัวยืนในระดับสูงได้ตลอดทั้งวัน โดยมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นในระดับเก้าหมื่นล้านบาท หากวันนี้ระดับราคาดีดกลับขึ้นต่อผ่านขึ้นปิด GAP ที่เปิดเอาไว้บริเวณ 1,238 จุดได้ ดัชนีอาจขึ้นต่อเนื่องได้ถึงแถวๆ 1,306 จุดต่อไป ในขณะที่แนวรับชั่วคราวอยู่แถวๆ 1,211-1,187 จุด หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ นี้ซะก่อนยังน่าซื้อเพิ่ม ลุ้นดีดกลับขึ้นรอบใหม่จากสัญญาณ Golden cross ในอีก 1-2 วันข้างหน้าได้
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
