นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารเปิดตัว Kept บัญชีเงินฝากบนแอพพลิเคชั่น ที่มีจุดเด่นและแกต่างจากบัญชีเงินฝากทั่วไปตรงที่มีนวัตกรรมบริหารเงินเสมือนเป็นสูตรเก็บเงิน สำเร็จง่าย และทำให้การเก็บเงินทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งยังมีความสนุกและบริหารการใช้จ่ายของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายหลัก 2 กลุ่ม คือ Young Money ซึ่งเป็นกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z อายุ 10-23 ปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ยังไมมีรายได้ หรือถ้ามีรายได้แล้วแต่ยังไม่มาก และต้องการเก็บเงินเพื่อซื้อของที่ต้องการ และอีกกลุ่ม คือ Growing Money กลุ่มเจนเนอเรชั่น Y อายุตั้งแต่ 24-40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้มีเงินออมแล้ว แต่ต้องการออมเงินมากขึ้น

โดยฟีเจอร์ของแอพพลิเคชั่น Kept ที่ชาญฉลาด จะประกอบไปด้วย 3 บัญชีหลัก หรือเรียกง่ายว่า เป็น 1 กระเป๋า 2 กระปุก ได้แก่ บัญชี Kept บัญชี Grow และบัญชี Fun ที่ทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ โดย บัญชี Kept เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์แยกเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้งานเพียงโอนเงินเข้ากระเป๋า Kept และทำการตั้งยอดเงินที่อยากจะเก็บไว้ใช้จ่าย พอสิ้นวัน ระบบจะช่วยโอนเงินส่วนที่เหลือไปเก็บไว้ให้เป็นก้อนที่บัญชี Grow ที่เปรียบเสมือนเป็นกระปุกเงินเพื่อเก็บเงินก้อนให้ดอกเบี้ยที่สูงในปีแรก และสูงกว่าในปีที่ 2 คิดดอกเบี้ยทุกวัน จ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 28 ของเดือน ซึ่งในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.6% และ 1.8% ตามลำดับ (ดอกเบี้ยเงินฝากโดยเฉลี่ยของธนาคารกรุงศรีในปัจจุบันอยู่ที่ 1.3%) โดยเงินดังกล่าวจะถูกนำมาใส่ในกระปุกนี้ให้อัตโนมัติทุกสิ้นวันเมื่อเงินในกระเป๋า Kept มีมากกว่ายอดเงินที่ตั้งไว้ว่าจะใช้จ่าย (โดยมีขั้นต่ำ 5,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อรายการ) และถ้าเมื่อไรที่อยากใช้เงินมากกว่าเงินที่มีในกระเป๋า Kept ระบบจะช่วยหยิบเงินส่วนที่ขาดมาจากกระปุก Grow มาให้ใช้ได้อัตโนมัติเช่นกัน และลูกค้าสามารถโอน เงินเข้า-ออกบัญชี Kept ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

ส่วนบัญชี Fun – เปรียบเสมือนกระปุกเงิน สำหรับการเก็บเล็กผสมน้อยที่สามารถทำได้ทุกวัน ที่มาพร้อม 2 ฟีเจอร์ คือ ฟีเจอร์แอบเก็บที่ช่วยเก็บเงินให้ทุกครั้งที่โอนออกหรือสแกนจ่ายด้วย QR code สามารถเลือกแอบเก็บได้หลายวิธี อีกฟีเจอร์คือ สั่งเก็บให้เก็บเงินเมื่อไรและจำนวนเท่าใดก็ได้ ช่วยให้มีเงินออมสม่ำเสมอ และเมื่อต้องการใช้เงินในกระปุกนี้ก็สามารถโอนเข้ากระเป๋า Kept ได้

อย่างไรก็ดี สามารถดาวโหลดแอพพลิเคชั่น Kept ทั้งระบบ iOS และ Android พร้อมกันนี้สามารถเปิดบัญชีผ่านระบบยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล โดยไม่ต้องมาที่สาขา หรือยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง Krungsri i-CONFIRM ซึ่งเป็นจุดบริการยืนยันตัวตน ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่สมัครสำเร็จพร้อมโอนเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท 1 รายการภายใน 7 วัน นับจากวันสมัครสำเร็จ จะได้รับบัตรกำนัล e-Coupon สตาร์บัค มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.นี้ โดยตั้งเป้าหมายในระยะ 12 เดือนจากนี้ จะมีฐานลูกค้าเงินฝาก Kept ทั้งสิ้นประมาณ 2 แสนราย และมีฐานเงินฝากรวมทั้งหมดประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยบัญชีละ 20,000 บาท

นายพงษ์อนันต์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมเงินฝากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้พบว่ามีการเติบโต 8% หรืออยู่ที่ 102 ล้านบัญชี รวมมูลค่าเงินฝากทั้งหมด 1.5 ล้านล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวถือว่าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 3-4% ขณะนี้ลูกค้าเงินฝากของกรุศรี เติบโตที่ 6% ทั้งนี้ เฉพาะบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั้งระบบมีการเติบโต 14% ส่วนกรุงศรี เติบโต 16% โดยเนื่องมาจากสัดส่วนเงินออกจากบัญชีมีความเปลี่ยนแปลงไป จาก 2 สาเหตุ คือ 1. ลูกค้าเงินฝากอาจมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนในอนาคตภายหลังจากเกิดไวรัสโควิด-19 ทำให้ลูกค้าเกิดการเก็บออมมากขึ้น และ 2. สำหรับลูกค้าทั้งรายย่อยที่เดิมมีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ อาจเกิดความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคต ทำให้มีการขายสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะหุ้นหรือกองทุนต่างๆ และนำมาฝากในธนาคารแทน รวมถึงผู้ประกอบต่างๆ ด้วยที่เลือกเก็บเงินไว้ในธนาคารเพื่อเป็นสภาพคล่อง

“อย่างไรก็ดี จากข้อมูลสถิติพบว่าสังคมไทยไม่มีเงินออม โดยเฉพาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Y อายุ 30 ปี พบว่า 50% มีหนี้ ซึ่งยังไม่นับรวมหนี้กยศ. และหนี้นอกระบบ ยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 5 เป็นหนี้เสีย ขณะที่บัญชีเงินฝากทั้งระบบที่ 102 ล้านบัญชี พบว่า 87% เป็นบัญชีเงินฝากต่ำกว่า 50,000 บาท หรือมากกว่า 50% เป็นบัญชีเงินฝากต่ำกว่า 500 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมาก ส่งผลให้คนไทยเป็นหนี้นานและมีโอกาสหนี้สูญ ซึ่งจุดประสงค์การเปิดตัว Kept ในครั้งนี้ก็เพื่อให้มีการออมกันมากขึ้นโดยอาศัยนวัตกรรม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน