กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-34.00 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 33.86 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเริ่มต้นสัปดาห์เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังมีแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้ส่งออกในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 1.4 พันล้านบาทแต่ขายพันธบัตรสูงถึง 1.13 หมื่นล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า แม้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสว่าเศรษฐกิจสหรัฐ ‘แข็งแกร่งเพียงพอที่เฟดจะเดินหน้าตามแผนที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยและเริ่มลดขนาดพอร์ตลงทุนในพันธบัตร แต่ตลาดให้ความสนใจอย่างมีนัยสำคัญต่อความกังวลของเฟดที่ว่า อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยนโยบายปกติมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ตอกย้ำคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะจำกัดการฟื้นตัวของดอลลาร์

สำหรับปัจจัยชี้นำอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแต่จะปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลง สนับสนุนมุมมองที่ว่าบีโอเจอาจจะช้ากว่าธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอื่นๆ ในการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจเริ่มส่งสัญญาณในการประชุมสัปดาห์นี้เพื่อให้ตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศปรับลดโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ในเดือนก.ย.

สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวย้ำว่านโยบายการเงินผ่อนคลายยังมีความจำเป็น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยยังต่ำกว่าเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับต่ำสุดของกรอบเป้าหมายได้ช่วงปลายปี 2560 และต้นปี 2561 ซึ่งช้ากว่าที่ทางการเคยประเมินไว้เนื่องจากครึ่งปีแรกมีผลของฐานที่สูงจากภาวะภัยแล้งในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจปัจจุบัน ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เงินเฟ้อของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.67% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของกนง.ที่ 1-4%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน