นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นรากฐานสำคัญของกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ธนาคารจึงพร้อมที่จะร่วมสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีให้สามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ โดยเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่เข้าร่วม “โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่” ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2560 ธนาคารเตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการดังกล่าวจำนวน 12,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะรับภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 1.75% ต่อปี ในระยะ 4 ปีแรก แทนลูกค้า

ธนาคารยังร่วมกับ บสย. ผลักดันนโยบายภาครัฐช่วยปลดล็อกเอสเอ็มอีสู่การขยายธุรกิจให้สามารถเติบโตโดยไม่สะดุด ด้วยการให้วงเงินสินเชื่อสูงขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่เพียงพอในการขยายธุรกิจให้ได้วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 300% ของราคาประเมินหลักประกัน ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปีพร้อมลดภาระค่าใช้จ่าย โดยฟรีค่าธรรมเนียม บสย. 4 ปีแรก และลดดอกเบี้ยสูงสุด 1% สำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน

นอกจากนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ยังจัดแคมเปญพิเศษ “ย่อ ยืด ขยาย” โปรแกรมพิเศษเพิ่มเติมสำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนให้เอสเอ็มอีสามารถต่อยอดธุรกิจ ด้วยสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ โดยลูกค้าจะได้รับวงเงินกู้เพิ่ม 10% ของราคาประเมินหลักประกัน และขยายระยะเวลาผ่อนสูงสุด 2 ปี ทั้งนี้แนวทางที่ธนาคารออกมาจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นด้วย

“เป้าหมายของธนาคารไทยพาณิชย์ที่สำคัญประการหนึ่งคือ การผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยเราพร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเอสเอ็มอีในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างครบวงจร”

ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการขอรับคำปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่สาขาธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ หรือ SCBSME Call Center 0-2722-2222 หรือ www.scbsme.scb.co.th

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน