นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย บริษัทออก 4 มาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เอาประกันภัยของบริษัทที่ประสบอุทกภัย และมีภูมิลำเนาตามที่แจ้งไว้ในกรมธรรม์อยู่ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามรายงานสถานการณ์สาธารณภัย กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ดังนี้

1. กรณีกรมธรรม์ครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยในระหว่างวันที่ 5 ก.ค. 2560 – 31 ส.ค. 2560 บริษัทจะขยายระยะเวลาผ่อนผันออกไปอีก 60 วันนับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม

2. กรณีกรมธรรม์ขาดอายุ หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติ หรือแปลงเป็นกรมธรรม์แบบขยายเวลาอัตโนมัติในระหว่างวันที่ 5 ก.ค. 2560 ถึงวันที่ 31 ส.ค. 2560 หากมีการขอต่ออายุกรมธรรม์ หรือขอกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่กรมธรรม์ขาดอายุ หรือเปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จอัตโนมัติ หรือแปลงเป็นกรมธรรม์แบบขยายเวลาอัตโนมัติ บริษัทจะยกเว้นดอกเบี้ยและการตรวจสุขภาพ

3. กรณีกรมธรรม์มีการนำมูลค่าเวนคืนมาชำระเบี้ยประกันภัยโดยอัตโนมัติในระหว่างวันที่ 5 ก.ค. 2560 – 31 ส.ค. 2560 บริษัทจะยกเว้นดอกเบี้ยหากชำระคืนเงินกู้ชำระเบี้ยประกันภัยอัตโนมัติภายใน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระ

4. กรณีกรมธรรม์สูญหายหรือเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยนี้ บริษัทจะดำเนินการออกกรมธรรม์ทดแทนให้ใหม่โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม

นายสาระ กล่าวอีกว่า นอกจากมาตรการความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทยังส่งมอบถุงยังชีพ ซึ่งบรรจุด้วยอาหาร เครื่องใช้ และสิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด พร้อมน้ำดื่มอีก 2,000 แพ็ก เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกทางหนึ่งด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน