ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ถูกกดดันจากปัจจัยความกังวลภายในประเทศ โดยดัชนีถูกกดดันอย่างหนักหลังเปิดการซื้อขายภาคบ่ายได้ไม่นาน ทำให้ดัชนีร่วงลงไปลึกกว่า 90 จุด โดยลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,343.13 จุด โดยต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ก่อนที่ดัชนีจะค่อยๆ ดีดกลับขึ้นมา ทำให้ปิดตลาดดัชนีอยู่ที่ 1,406.18 จุด ซึ่งต่ำสุดในรอบ 4-5 เดือน โดยลดลง 36.03 จุด ลบ 2.50% และดัชนีสูงสุดของวันอยู่ที่ 1,425.29 จุด ทั้งนี้ ยังพบว่ามูลค่าการซื้อขายตลอดทั้งวันอยู่ที่ 130,152.19 ล้านบาท โดยสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับหุ้นที่ถูกแรงเทขายหนักส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ กลุ่มธนาคาร พลังงาน และสื่อสาร สำหรับข้อมูลการซื้อขายหุ้นไทยแยกตามประเภทนักลงทุน โดยนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,221.54 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 3,023.47 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 411.36 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยในประเทศยังคงเป็นฝ่ายซื้อสุทธิหุ้นไทยที่ 4,656.38 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยดิ่งหนัก โดยเฉพาะช่วงบ่ายที่เริ่มเปิดการซื้อขาย ร่วงเกือบ 100 จุด ก่อนจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เหลือติดลบ 30 กว่าจุด เป็นผลจากปัจจัยภายในประเทศ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าเร็วในช่วงบ่าย ทั้งนี้ คงต้องติดตามว่าเป็นแรงขายจากหุ้นหรือพันธบัตร เพราะบางครั้งซื้อสุทธิหุ้น แต่ขายพันธบัตร ค่าเงินอ่อนค่าได้เช่นกัน

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันที่ 13 ต.ค. ตลาดยังคงเปราะบางจากปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน จึงกลบประเด็นอื่น ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย ไตรมาส 3/2559 และปัจจัยต่างประเทศกรณีแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ชะลอลงทุน และกลับมาพิจารณาเก็งกำไรอีกครั้งเมื่อดัชนีเริ่มนิ่งมากขึ้นแถวๆ ดัชนีที่ 1,400 จุด 1,380 จุด และ 1,350 จุด ตามลำดับ พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,400-1,380 จุด แนวต้าน 1,420 จุด

ขณะที่นักค้าเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดที่ 35.74-35.76 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยอ่อนค่าจากเปิดตลาดที่ 35.35-35.36 บาท ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินบาทแข็งค่าสุดที่ 35.33 บาท และอ่อนค่าสุดที่ 35.90 บาท ซึ่งเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน โดยเกิดจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ทำให้เงินบาทอ่อนค่ามากกว่าภูมิภาคส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทในวันที่ 13 ต.ค. คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60-35.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน