หุ้นไทยยังลดลงต่อ แต่รีบาวด์กลับระยะสั้นๆ ช่วงท้ายตลาด

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 ปิดที่ 1,412.82 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.64 จุด คิดเป็น +0.47% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1412.82 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1356.79 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 103,973.27 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 906.77 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.47 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดบวก 15.54 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดบางส่วนมองว่าการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี ในการประชุมครั้งนี้ กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

ภาวะตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลดลง เหตุราคาน้ำมันดิ่ง ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวกเพียง 2.85 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากที่จีนได้เผยยอดส่งออกเดือนก.ย.หดตัว 5.6%

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดลบ 65.76 จุด เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้น หลังจากที่จีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจซบเซา อย่างไรก็ดี กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะซื้อกองทุน ETF ได้ช่วยสกัดแรงขายไม่ให้รุนแรง

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 6,891.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท คิดเป็น +1.69%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,899.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.30%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,948.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.75 บาท คิดเป็น +4.66%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,638.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5.00 บาท คิดเป็น +2.75%
5. SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,547.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +1.43%

ดัชนีมีความพยายามประคองตัว แกว่งตัวแคบๆ หลังจากดัชนีมีการเปิดกระโดดลงมาในช่วงเช้า ก่อนที่ดัชนีจะเริ่มอ่อนตัวต่อเนื่องในช่วงบ่าย โดยดัชนีลงมาใกล้จุดต่ำสุดเดิมของวันก่อนหน้า แล้วจึงมีแรงซื้อรีบาวด์กลับระยะสั้นๆ ท่ามกลางวอลุ่มตลาดที่หนาแน่น ดังนั้นวันนี้หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low หรือปิดต่ำกว่า 1,356-1,343 จุด ดัชนีจึงจะมีลุ้นประคองตัวหรือดีดกลับต่อได้แถวๆ เส้น BollingerBottom บริเวณ 1,419 จุด และเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,426-1,428 จุดได้อีกครั้ง

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด