นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 31 ส.ค. 2560 มี บจ. ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2560 แล้ว 152 บริษัท (ไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) มูลค่าเงินปันผลรวม 117,859 ล้านบาท แบ่งออกเป็น บจ. ใน SET 130 บริษัท มูลค่าเงินปันผล 116,742 ล้านบาท และ บจ. ใน mai 22 บริษัท มูลค่าเงินปันผล 1,117 ล้านบาท ทั้งนี้ มูลค่าเงินปันผลส่วนใหญ่หรือ 75% ของทั้งหมด เกิดจาก บจ. กลุ่ม SET50 คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวม 88,689 ล้านบาท

“ผลกำไรสุทธิของ บจ. ขนาดใหญ่ที่ปรับดีขึ้น มีส่วนทำให้ บจ. จ่ายเงินปันผลได้เพิ่มขึ้นในรูปตัวเงิน โดยเพิ่มขึ้นถึง 23.59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่จำนวน บจ. ที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลยังคงอยู่ในระดับ 150 บริษัทใกล้เคียงปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสม่ำเสมอของบริษัท ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ลงทุนในการพิจารณาลงทุนในหุ้นไทย” นายสันติ กล่าว

บจ. ใน SET ที่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เช่น บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และ บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) มีมูลค่ารวมกัน 54,220 ล้านบาท หรือ 46% ของมูลค่าเงินปันผลระหว่างกาลทั้งหมดใน SET

สำหรับ บจ. ใน mai ที่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) บมจ. บางกอก เดค-คอน (BKD) บมจ. บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) บมจ. ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) และ บมจ. แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) มีมูลค่าเงินปันผลรวม 648 ล้านบาท หรือ 58% ของมูลค่าเงินปันผลระหว่างกาลทั้งหมดใน mai

สำหรับหมวดธุรกิจที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงสุด 5 อันดับแรก คือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมวดวัสดุก่อสร้าง หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าเงินปันผลรวม 90,399 ล้านบาท หรือ 77% ของมูลค่าเงินปันผลระหว่างกาลทั้งหมด และเป็น 5 หมวดธุรกิจเดียวกันกับในปีก่อนหน้าที่จ่ายเงินเป็นปันผลสูงสุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน