นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในงานสัมมนา “ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกกับทิศทางการลงทุนในปี 2018” ประเมินหุ้นไทยปีหน้ามีโอกาสแตะ 2,000 จุด และดัชนีในปีนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่เหนือจุดสูงสุดในปี 2537 ที่ 1,789.16 จุดได้ หากรัฐบาลสามารถดำเนินการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) สำเร็จตามเป้า และดึงนักลงทุนต่างประเทศสามารถเข้ามาตั้งโรงงานผลิตได้จริง และมีการผลักดันการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้ตามนโยบาย
ขณะเดียวกันประเมินว่า ปัจจัยด้านการเลือกตั้งจะไม่ใช่ประเด็นหลักในการผลักดันดัชนีในครั้งนี้ พร้อมกับยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ไว้ที่ 1,680 จุด แม้ปัจจุบันดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุเป้าหมายที่ประเมินไปแล้วไปแล้ว
“ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยปีหน้า มีโอกาสขึ้นไปอยู่ที่ 2,000 จุดได้ จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) และพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่จะมีการเติบโต จากการผลักดันโครงการอีอีซี ซึ่งเป็นโครงการที่นักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจมาก และจะทำให้เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่เช่น อาลีบาบา แอร์บัส ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อและการบริโภคเติบโตตามมาเชื่อว่าการเฉลิมฉลองและการจับจ่ายที่อั้นมาจากปีก่อนน่าจะเริ่มกลับมาคึกคักในช่วงต้นปี 2561”
นายปริญญ์ กล่าวว่า สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ได้แก่ กลุ่มพลังงาน เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันกลับมาเป็นบวกค่อนข้างมาก จากปัจจัยการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ หรือ โอเปก และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับประโยชน์จากการบริโภคของไทยที่เริ่มฟื้นตัวทำให้มีการปล่อยกู้ให้แก่การลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และสื่อสารที่จะได้รับผลดีจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว
