บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (16-20 ต.ค. 2560) โดยเงินบาททยอยอ่อนค่า ขณะที่ เงินดอลลาร์ขยับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ประกอบกับมีแรงหนุนเงินดอลลาร์ ในช่วงปลายสัปดาห์จากรายงานข่าวที่ระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐ ให้การรับรองงบประมาณปี 2561 ซึ่งตลาดมองว่า อาจเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินหน้าแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน สำหรับในวันศุกร์ (20 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ ในวันวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (12 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (24-27 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่สัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงสะท้อนผลสรุปของผู้ที่จะมาเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ (ขั้นต้น) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน สต๊อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/2560 นอกจากนี้ ตลาดอาจรอจับตาผลการเลือกตั้งในญี่ปุ่น ประเด็นจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปด้วยเช่นกัน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงตามแรงขายของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,692.58 ลดลง 1.16% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 0.93% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 67,506.96 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 564.54 จุด ลดลง 0.92% จากสัปดาห์ก่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายทำกำไรเกือบตลอดสัปดาห์ จากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติ หลังดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงก่อนหน้านี้ ตลอดจนเพื่อลดความเสี่ยงก่อนช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ นอกจากนี้ ดัชนี SET ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังการรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 ของธนาคารขนาดใหญ่ เนื่องจากการตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (24-27 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,680 และ 1,670 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,720 และ 1,730 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และผลประกอบการของบจ.สำหรับไตรมาส 3/60

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/60 ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. และดัชนี PMI Composite (เบื้องต้น) เดือนต.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีของอังกฤษ และดัชนี PMI (เบื้องต้น) ของประเทศแถบยุโรป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน