สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2559 ปิดที่ 1,477.54 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.20 จุด คิดเป็น +0.01% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,482.17 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,467.61 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 57,714.29 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 937.67 จุด ปรับตัวลดลง -2.09 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.29% หลังจากนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้ออกมาเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและยาวนาน ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณครั้งล่าสุดว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งสูงขึ้น 1.40% เนื่องจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินหยวน ภายหลังจากที่เงินหยวนกลับมาดีดตัวขึ้น ภายหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ จากกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 0.38% เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 5,481.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +2.70%
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,610.49 ล้านบาท ลดลง -3.50 บาท คิดเป็น -1.95%
3. BCPG มูลค่าการซื้อขาย 3,276.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.30 บาท คิดเป็น +2.16%
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,243.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.00 บาท คิดเป็น +0.85%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,024.06 ล้านบาท ลดลง -6.00 บาท คิดเป็น -1.53%
ดัชนีมีความพยายามประคองตัวแกว่งตัวแคบๆ โดยในระหว่างวันดัชนีลงไปทดสอบแนวรับแถวๆ 1,467 จุดและสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ อีกทั้งยังดีดกลับขึ้นมาทำ New high เล็กน้อย แม้ว่าจะประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันไม่ได้ ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายกลับสู่ภาวะปกติ หากวันนี้ดัชนีสามารถประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวได้แถวๆ 1,479 จุด หรือไม่หลุดลงไปทำ New low ต่ำกว่า 1,467 จุดซะก่อน ดัชนียังมีลุ้นขยับขึ้นต่อทำ New high แถวๆ 1,489-1,497 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
