สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ปิดที่ 1,691.25 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.99 จุด คิดเป็น +0.06% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,699.85 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,691.17 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 58,163.93 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,076.63 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.60 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดร่วง 138.19 จุด โดยตลาดได้รับปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวก หลังจากที่ร่วงลงตลอดหลายวันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนต่างรอดูผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รวมทั้งยอดค้าปลีกของอังกฤษที่จะมีการเปิดเผยวันนี้ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดที่ 13,024.39 จุด เพิ่มขึ้น 48.02 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 3.27 จุด หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยรายงานล่าสุดในวันนี้ระบุว่า การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) นอกภาคการเงิน ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดบวก 167.07 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง ซึ่งปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังบริษัทเผยผลประกอบการไตรมาสที่แข็งแกร่ง
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว แรงซื้อเก็งกำไรหนุนนิกเกอิปิดพุ่ง 322.80 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากนิกเกอิร่วงลงติดกันในช่วง 6 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,291.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.52%
2. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,119.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.00 บาท คิดเป็น +1.55%
3. TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,859.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.12 บาท คิดเป็น +4.62%
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,599.78 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -0.49%
5. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,490.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.44%
ดัชนีมีความพยายามดีดกลับหลังจากวันก่อนหน้าถูกขายทำกำไรกดลงมาปิดที่ระดับต่ำของวัน โดยในระหว่างวันมีความพยายามประคองตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ซึ่งในท้ายที่สุดของวันไม่สามารถประคองตัวปิดเหนือได้ ในขณะที่ดัชนีไม่มีการทำ New high วันต่อวันอีกด้วย
ดังนั้นวันนี้ดัชนีจึงมีโอกาสซึมลงทดสอบแนวรับที่จุดต่ำสุดเดิมแถวๆ 1,681-1,680 จุดอีกครั้ง ไม่หลุดลงไปทำ New low หรือปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าวซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับได้อีกครั้ง แนวต้าน 1,700-1,704 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
