บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (17-21 ต.ค.2559) โดยเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายทำกำไรเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟดสะท้อนว่า เฟดจะยังคงใช้ความระมัดระวังในการเลือกจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนจากการที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิพันธบัตรไทยด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์สหรัฐ ฟื้นตัวขึ้น หลัง ECB ส่งสัญญาณสำหรับโอกาสการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินรอบใหม่ ขณะที่ ทิศทางเงินหยวนที่อ่อนค่าลงก็มีผลกระทบบางส่วนต่อบรรยากาศของสกุลเงินเอเชียในภาพรวมด้วยเช่นกัน สำหรับในวันศุกร์ (21 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 35.28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันศุกร์ (14 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (24-28 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศจะอยู่ที่ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย. ของไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศน่าจะยังคงเน้นไปที่สัญญาณดอกเบี้ยของเฟด ที่อาจสะท้อนผ่านถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูงหลายท่านในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (ขั้นต้น) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3/2559 (ครั้งแรก) นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามรายงานดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนต.ค. ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

ส่วนดัชนีหุ้นไทยทยอยฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อในประเทศ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,500.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.54% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 42.36% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 55,266.03 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 565.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.85% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยทยอยปรับเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาด ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนลงไปได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้อานิสงส์จากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ (ทั้งสถาบัน รายย่อย และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์) และการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วยเช่นกัน

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (24-28 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,480 และ 1,455 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,510 และ 1,525 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2559 และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่อาจเป็นสัญญาณสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพี ไตรมาส 3/2559 (เบื้องต้น) สำหรับข้อมูลต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ ดัชนี PMIs ของประเทศในยูโรโซน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน